วันนี้ (1 มี.ค. 2565) นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวpการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ว่า จังหวัดเชียงใหม่ประเมินว่าเดือนมีนาคมเป็นช่วงสำคัญของสถานการณ์หมอกควันไฟป่า เพราะเป็นเดือนที่น่าจะไม่มีฝนตกในพื้นที่และอากาศแห้งแล้ง จึงได้กำชับไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ลดการบริหารจัดการเชื้อเพลิง รวมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนให้งดการเผา เพื่อไม่ให้ตัวเลข Hotspot หรือค่า PM2.5 เพิ่มสูงขึ้น
.

.
ส่วนกรณีของการเกิดไฟในหลายพื้นที่ของจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหลายจุดเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอ ทางจังหวัดได้มอบนโยบายในเรื่องดังกล่าวไปแล้วว่า ไม่ต้องแบ่งแยกว่าเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของใคร แต่หากมีเหตุไฟป่าเกิดขึ้น หน่วยงานใดอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุก็ให้เข้าทำการดับไฟได้เลย
.
ด้านนายอิสระ ศิริไสยาสน์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้เตรียมการในหลายๆ ด้านเพื่อรับมือกับสถานการณ์หมอกควันไฟป่าเดือนมีนาคมไม่ให้รุนแรงเหมือนในปีที่ผ่านมา โดยในเดือนมีนาคม – เมษายน จะมีการเพิ่มชุดลาดตระเวนในพื้นที่ป่าอีก 24 ชุด จากเดิมที่ในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ มีชุดลาดตระเวนออกปฏิบัติการในจังหวัดเชียงใหม่อยู่แล้วจำนวน 24 ชุด รวมทั้งหมดเป็น 48 ชุด
.

.
ขณะเดียวกันทางจังหวัดยังได้ประสานกับกองทัพอากาศ ในการนำอากาศยาน UAV เข้ามาสำรวจจุดความร้อนในพื้นที่ โดยในขณะนี้อากาศยาน UAV อยู่ระหว่างการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ คาดว่าจะสามารถเริมปฏิบัติการได่ในสัปดาห์หน้า โดยจะทำการบินสำรวจทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งจะช่วยให้จังหวัดเชียงใหม่สามารถติดตามจุดความร้อนหรือการเกิดไฟได้มากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากข้อมูลจากดาวเทียมที่ใช้อยู่
.
นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ยังเตรียมที่จะมอบเงินให้กับชุมชนเพื่อนำไปใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ โดยจังหวัดมีเงินจากมูลนิธิป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควัน จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 13.67 ล้านบาท ที่ได้รับจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และตามแผนจะมอบเงินจำนวนนี้ให้กับ 644 หมู่บ้านที่ยังขาดงบประมาณ ซึ่งล่าสุดจังหวัดเตรียมที่จะส่งมอบให้กับหมู่บ้านแล้ว โดยคาดว่าภายในสัปดาห์นี้หมู่บ้านเป้าหมายทั้งหมดจะได้รับงบประมาณดังกล่าว
