วันนี้ (11 ม.ค. 2565) ในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 14 ประจำปีงบประมาณ 2565 ณ ห้องประชุมโครงการชลประทานเชียงใหม่ (อ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง) ด้านหลังสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยแนวทางขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและรับมือสถานการณ์หมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2565 ว่า เน้นการจัดชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟในพื้นที่ป่า และหากพบเหตุเผาป่า ชุดลาดตระเวนก็จะสามารถทำการดับไฟได้ทันที รวมทั้งจะให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังจุดที่เกิดไฟป่าซ้ำซากด้วย
.
.
ปัจจุบันมีการตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดแล้ว ดังนั้นพื้นที่ป่าห้ามไม่ให้มีไฟอย่างเด็ดขาด โดยการบริหารงานในระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการจะเป็นผู้สั่งการเพียงคนเดียว ส่วนในระดับอำเภอก็จะมีศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาของตัวเอง ให้นายอำเภอเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ และสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องมีชุดปฏิบัติการที่มีทั้งกำลังคนและอุปกรณ์ เพื่อเป็นกำลังผสมร่วมกับทหาร และพลเรือนออกไปลาดตระเวนเฝ้าระวังการเกิดไฟในพื้นที่แต่ละอำเภอ โดยมีปลัดอำเภอเป็นหัวหน้าชุด รวมทั้งจังหวัดเป็น 24 ชุด ขณะที่พื้นที่ทางการเกษตรจะอาศัยการบริหารจัดการเชื้อเพลิงเพื่อแก้ปัญหา โดยการเผาในพื้นที่จะทำการวางแผนอย่างเป็นระบบ อาศัยข้อมูลจากดาวเทียมมาวิเคราะห์เพื่อเลือกวิธีบริหารจัดการเชื้อเพลิงที่เหมาะสม
.
ในการแถลงข่าวดังกล่าวซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 คนได้พบปะกับสื่อมวลชนนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง นายประจญยังกล่าวด้วยว่า จากประสบการณ์การเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่ จ.พะเยา และ จ.เชียงราย ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ตนทราบดีว่าจะต้องรับมือกับปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างไร ไฟป่าจะไม่เกิดหากไม่มีคนไปจุดไฟ เพราะฉะนั้นต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด ไม่ให้เกิดการเผา ไม่อยากให้เน้นไปที่การดับไฟ แต่จะเน้นไปที่การป้องกันไม่ให้เกิดไฟมากกว่า
.
สำหรับเป้าหมายในภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ คือการยับยั้งไม่ให้ค่าฝุ่นละอองเพิ่มสูงจนกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในจังหวัด และลดปริมาณจุดความร้อน (Hotspot) ลงให้ได้มากที่สุด
