บ้านก้อ – อุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ผลจากความสามัคคีที่กำลังกลายเป็นกรณีศึกษาการป้องกันไฟป่าที่น่าสนใจ ด้วยตัวเลขจุดความร้อนสะสมของปีนี้ที่ยังมีจำนวนน้อย ต่างจากเดิมที่มีไฟป่าซ้ำซาก เฉลี่ยย้อนหลัง 20 ปี มีไฟไหม้ 281,840 ไร่ต่อปี และเป็นอุทยานที่มีไฟป่ามากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
.
.
วันนี้ (6 เมษายน 2565) นายมัญญา นาคพน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ให้สัมภาษณ์กับทางสถานีฝุ่น เปิดเผยว่า ปีที่แล้วในพื้นที่อุทยานมีจุดความร้อนเกิดขึ้นสูงมาก โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม นับได้ 1,000 กว่าจุด มีรอยไฟไหม้เป็นแสนๆ ไร่ ไฟที่เกิดขึ้นในเขตอุทยานแม่ปิง โดยเฉพาะตำบลก้อ ทางอุทยานร่วมกับนักเรียนทุนอานันทมหิดล และหลายหน่วยงาน ร่วมกันศึกษาปัญหา จนพบว่าไฟป่าที่เกิดขึ้นมีสาเหตุใน 2 มิติ คือการพัฒนาของชุมชน และไฟที่เกิดขึ้นมาจากการชิงเผาหรือไม่
.
จากข้อมูลดังกล่าว ในปี 2565 นี้ ทางอุทยานจึงประสานกับทางจังหวัดและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ขอทดลองว่า จะไม่ให้เกิดการชิงเผา เพื่อจะได้เป็นการพิสูจน์ให้รู้ข้อเท็จจริง ว่าการเผาในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิงนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่
.
นายมัญญากล่าวว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงต้นเดือนเมษายน 2565 พื้นที่แถบนี้ไม่มีไฟ ไม่มีจุดความร้อนเกิดขึ้น ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนก้อเอง ตอนนี้เริ่มรักและหวงแหนป่า และช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดไฟป่า ทำให้ไฟที่เคยเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปียังไม่มีเลยในปีนี้
.
ขณะเดียวกัน ทางอุทยานเริ่มรู้สาเหตุแล้วว่า การเผาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ส่วนใหญ่ที่พบคือการจุดไฟเผาล่าสัตว์ นอกจากนี้ ไฟที่อุทยานเป็นห่วงมากที่สุดคือไฟข้ามจังหวัด ได้แก่ไฟที่มาจากจังหวัดลำปาง ตาก และเชียงใหม่ โดยเฉพาะรอยต่ออำเภอลี้ อำเภอสามเงา และอำเภอแม่พริก ซึ่งเป็นเขตรอยต่อของสามจังหวัด และพื้นที่เป็นที่เขาสูงซัน เข้าไปในพื้นที่ลำบาก ต้องเดินเท้าเข้าไป 4 ชั่วโมง รอยต่อดังกล่าวเป็นเขตไฟใหญ่ที่มีไฟไหม้ทุกปี และเกิดปัญหาเยอะมาก ซึ่งนายมัญญายอมรับว่าปัญหาตรงนี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้
.
.
นายมัญญากล่าวเพิ่มเติมว่า เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม 3 เดือนที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่า อุทยานและชุมชนบ้านก้อสามารถผ่านช่วงเวลาดังกล่าวมาได้โดยที่ไม่มีไฟเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเพราะชาวบ้านก้อร่วมใจกันดูแลรักษาป่าในพื้นที่ อย่างไรตาม จะนับว่าประสบความสำเร็จแล้วไม่ได้ ทุกฝ่ายยังคงต้องเฝ้าระวังกันต่อไป เพราะยังเหลืออีกสองเดือน คือ เมษายน – พฤษภาคม กว่าจะหมดฤดูไฟ จึงเป็นเป้าหมายที่สำคัญทั้งของเจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชน ว่าจะสามารถรักษาสถิตินี้ให้ลุล่วงไปจนหมดฤดูไฟได้หรือไม่
#เพื่อลมหายใจภาคเหนือ
