7 มกราคม 2566 สถานการณ์ “หิมะดำ” หรือเขม่าจากการเผาซังตออ้อย ปกคลุมทั่วท้องฟ้าในหลายอำเภอของจังหวัดเลย และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น รายงานในพื้นที่แจ้งว่า เกษตกรผู้ปลูกไร่อ้อยจำนวนหนึ่งเลือกใช้วิธีนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความรวดเร็วนำอ้อยส่งโรงงาน ทำให้ท้องฟ้าโดยเฉพาะในพื้นที่ อำเภอผาขาว อำเภอเอราวัณ และอำเภอวังสะพุง เต็มไปด้วยฝุ่นควันและเขม่า ลอยปลิวว่อนในอากาศ เกาะตามเสื้อผ้า

เว็บไซต์ คมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า ในปี 2566 ในพื้นที่ จ.เลย พบการเผาซังตออ้อยอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.วังสะพุง มีการเผาอ้อยไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 ไร่ โดยส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ นอกจากนี้ในบางจุด ไฟจากการเผาไร่อ้อย ยังลุกลามมาใกล้บ้านเรือนประชาชนจนสร้างความหวาดกลัว

จากสถิติเมื่อปี 2564 เว็บไซต์ คมชัดลึกออนไลน์ ยังระบุอีกว่า ประเทศไทยมีการเผาในที่โล่งแจ้ง ประมาณ 35 ล้านไร่ เป็นการเผาจากการทำนาข้าว (นาปรัง/นาปี) 20 ล้านไร่ การเผาบนพื้นที่ป่าไม้ 9.7 ล้านไร่ จากการทำไร่อ้อย 2.7 ล้านไร่ และจากการทำไร่ข้าวโพด 1.9 ล้านไร่ ทุกๆ การเผาซาก ซังตอ อ้อย 1 ไร่ จะส่งผลกระทบต่อสังคมประมาณ 12,000 บาท หรือทุก 1 ตัน จะส่งผลกระทบประมาณ 1,300 บาทต่อตัน แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายห้ามเผา แต่ยังมีการลักลอบเผาซากอ้อยอยู่ตลอด และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากมีการลักลอบเป็นจำนวนมาก
.
ข่าวต้นทาง : “หิมะดำ” ปกคลุม สู่ วิบากกรรมของ แมวดาว สัตว์ป่าคุ้มครองหายาก คมชัดลึกออนไลน์